ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อเล่น:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:


Verification:
ให้ตอบคำถามต่อไปนี้ : 10 บวก 15 เท่ากับเท่าไร:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: น้องยิ้ม
« เมื่อ: 27/11/2017 - 23:33 PM »

จริงๆแล้วการดูแลรักษารถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพราะเมื่อถึงกำหนดเช็กระยะ ก็มักจะมีรายการที่ต้องเปลี่ยนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีชิ้นส่วนและอะไหล่บางตัว ต้องเปลี่ยนที่ระยะอื่นๆ หากไม่ได้เข้าศูนย์บริการ ไปเปลี่ยนที่อู่หรือร้านข้างนอก ก็ต้องจำให้ดีว่าเปลี่ยนอะไรไปที่ระยะเท่าไหร่บ้าง

       ซึ่งชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนเป็นประจำ จริงๆแล้วมีอยู่ไม่กี่อย่าง ดังนี้

   1. น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง เมื่อถึงกำหนดควรเปลี่ยนถ่ายทุกครั้ง สำหรับระยะเวลาเปลี่ยนคือ ทุกๆ 5,000 - 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ยี่ห้อ และประเภทของน้ำมันเครื่อง) แต่ถ้าตรวจเช็กดูแล้วพบว่า น้ำมันเครื่องมีสีดำสนิท สามารถเปลี่ยนถ่ายก่อนถึงกำหนดก็ได้ เพราะน้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพแล้ว

   2. แบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นแบบแห้ง กึ่งแห้ง หรือแบบเปียก ส่วนใหญ่ระยะเวลาการเปลี่ยนจะอยู่ที่ 1.5 -3 ปี แล้วแต่ขนาด และการใช้งาน นอกจากนี้แบตเตอรี่แบบเปียกต้องหมั่นดูแลน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับปกติอยู่ เสมอ อย่างน้อยเช็กดูเดือนละ 1 ครั้งก็ยังดี

   3. ไส้กรองอากาศ เมื่อถึงระยะประมาณ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี ก็ควรที่จะเปลี่ยนใหม่ หรือบางรุ่นสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลักจากทำความสะอาด

   4. ผ้าเบรก เพื่อความปลอดภัย หากได้ยินเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดขณะเหยียบเบรก ควรที่จะรีบนำรถไปเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ทันที เพราะนั่นคือสัญญาณเตือนว่าผ้าเบรกใกล้หมดแล้ว ส่วนระยะเวลาในการเปลี่ยนใหม่อยู่ที่ 40,000 - 70,000 กิโลเมตร โดยประมาณ

   5. หัวเทียน หากถึงระยะที่ควรเปลี่ยน คือ  40,000 กิโลเมตร แล้วไม่ยอมเปลี่ยน ฝืนใช้ต่อไป ก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่ เครื่องสะดุด อีกทั้งราคาหัวเทียนธรรมดาก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเปลี่ยน ควรทำทันที

   6. สายพานไทม์มิ่ง ถือเป็นสายพานหลักของห้องเครื่อง เพราะถ้าหากมันขาดขึ้นมาเมื่อไหร่ งานเข้าหนักแน่นอน ซึ่งระยะที่ควรทำการเปลี่ยนใหม่คือ 100,000 กิโลเมตร

   7. น้ำมันเกียร์และไส้กรองน้ำมันเกียร์ คงไม่มีใครอยากยกเกียร์ลูกใหม่ทั้งชุด เพราะราคามันโหดร้ายสุดๆ ดังนั้นเมื่อถึงระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย ประมาณ 20,000 - 40,000 กิโลเมตร (แล้วแต่รุ่นรถ) ก็ควรรีบจัดการให้เรียบร้อยทันที
Advertisement

   8. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง หากไม่ได้เปลี่ยนเลยอาจทำให้ไส้กรองตัน จนทำให้รถมีอาการ เร่งไม่ขึ้น กระตุก สตาร์ทติดยาก ฯลฯ ฉะนั้นเมื่อถึงระยะประมาณ 40,000 กิโลเมตร หรือ 2 ปี ควรเปลี่ยนให้เรียบร้อย

   9. ยางใบปัดน้ำฝน ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี (เพราะสภาพอากาศบ้านเราร้อนมาก ทำให้ยางเสื่อมสภาพไวขึ้น) ซึ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนในแต่ละปี ควรเปลี่ยนใหม่ไปเลย จะได้รีดน้ำออกได้อย่างสมบูรณ์

   10. ระบบส่องสว่างและหลอดไฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟหรี่ ไฟเบรก ไฟเลี้ยว หรือแม้กระทั่งไฟภายในห้องโดยสาร ฯลฯ ควรที่จะตรวจเช็กให้เรียบร้อย เพราะมันไม่มีระยะเปลี่ยนที่แน่นอน ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนใหม่เมื่อหลอดขาดเท่านั้น

   11. ยางรถยนต์ อายุการใช้งานส่วนใหญ่ที่มักจะเปลี่ยนกันคือ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าลงให้ลึกในรายละเอียด ยางมีอายุการใช้งานนานถึง 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ผลิต (เฉพาะยางที่มีคุณภาพสูง) และสิ่งที่กำหนดว่า ยางหมดอายุการใช้งานจริงๆ มีอยู่ 3 ข้อ คือ 1.ความลึกของดอกยาง (ไม่ควรต่ำกว่า 3มม.) 2.สภาพโครงสร้างของยาง ยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ มีร่องรอยความเสียหายตรงไหนรึเปล่า 3.อายุของยางรถยนต์ (หากยางคุณภาพกลางๆ อาจใช้ได้ 2-4 ปี แต่ถ้ายางคุณภาพสูงอาจใช้ได้ถึง 6 ปี
 
      การมีรถยนต์ นอกจากจะต้องขับรถเป็น ขับรถให้ถูกกฎแล้ว การดูแลรักษาก็ต้องรู้และทำให้เป็นด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเมื่อรถเกิดปัญหา คุณจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย หรือถ้านำไปซ่อม อาจจะโดนอู่หรือศูนย์บริการบางแห่งหลอกให้เปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ และฟันค่าซ่อมหัวแบะได้